ยินดีต้อนรับทุกท่านจ๊ แวะชมหน้าร้านได้น๊ https://www.facebook.com/Puyfai.Cosmetics

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

8 เรื่องจริงของผิว ที่คุณอาจยังไม่รู้

8 เรื่องจริงของผิว ที่คุณอาจยังไม่รู้

          ในขณะที่คุณผู้หญิงต่างหาข้อมูล เคล็ดลับมากมายเกี่ยวกับการดูแลรักษาผิวให้นุ่มนวล เนียนกระชับ ไร้ริ้วรอย แต่บางทีอาจะมีข้อมูลธรรมดา ๆ บางประการที่คุณยังมองข้ามไปก็ได้นะคะ ลองมาดูกันว่ากับ 8 เรื่องที่คุณผู้หญิงอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับการมีผิวสวย ลองเช็คดูสิว่าคุณเคยได้ยินได้ฟังมันมาบ้างหรือเปล่า
     1. ครีมบำรุงธรรมดา ก็ทำให้หน้าดีขึ้นได้
          เชื่อเถอะว่าแม้จะเป็นครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเบสิค ที่ราคาอาจถูกที่สุดในบรรดาเครื่องประทินผิวของแบรนด์นั้น ๆ หรือว่าเป็นครีมทาหน้าที่ได้มาจากการเข้าพักที่โรงแรม ก็ช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูดีขึ้นได้ เพราะความจริงแล้วครีมบำรุงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าจางลงอย่าง เห็นผลชัดเจน ที่คุณรู้สึกว่าผิวหน้าดูดีขึ้นก็เพราะได้รับความชุ่มชื้นจากตัวเนื้อครีม ที่มีส่วนผสมพื้นฐานจากกลีเซอรีน เชียร์บัตเตอร์ หรือว่าสารที่ให้ความชุ่มชื้นต่างหาก เพราะฉะนั้นการจะมีผิวหน้านุ่มเนียนสุขภาพดีได้จึงไม่จำเป็นต้องเลือกใช้แบ รนด์หรู ราคาสูงลิบเสมอไปหรอกค่ะ
     2. ออกกำลังกายหนัก ๆ ทำหน้าเหี่ยว
          หุ่นจะฟิตร่างกายจะเฟิร์มได้ก็ต้องออกกำลังกาย แต่คุณผู้หญิงเคยทราบไหมคะว่าการออกกำลังกายหนัก ๆ ก็สามารถทำให้หน้าเหี่ยวได้เหมือนกัน อันเกิดจากการออกแรงมากทำให้คุณต้องเกร็งส่วนของกรามและลำคอ นอกจากทำให้เส้นเอ็นที่คอปูดโปนออกมา ยังดึงรั้งให้ผิวหน้าย่นลงด้วย
     3. รังสีทำลายผิวได้แม้ในที่ร่ม
          นี่เป็นข้อหนึ่งที่หลาย ๆ คนน่าจะทราบกันเป็นอย่างดี ว่ารังสีจากแสงอาทิตย์สามารถทำร้ายผิวของคุณได้แม้จะอยู่ในที่ที่มีกำบัง มิดชิด อย่างในออฟฟิศ ในรถ หรือว่าในบ้าน เพราะรังสี UVB สามารถทะลุลอดผ่านกระจกหรือหน้าต่างมาได้ เมื่อเกิดการทำร้ายผิวสะสมนาน ๆ เข้า ก็ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังในยามที่คุณแก่ตัวลงไป หรือเกิดเป็นฝ้า กระ อย่างที่พบเห็นได้มากในผู้สูงอายุ เพราะฉะนั้นการทาผิวด้วยครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าคุณจะออกจากบ้านหรือ ไม่จึงเป็นเรื่องที่สมควรทำให้เป็นนิสัยจริง ๆ
     4. แม้ไม่โดนแดดผิวก็ไหม้ได้
          อาการผิวแดงและลอกที่เรียกว่าผิวไหม้ (sunburn) ไม่ได้มาจากการอยู่ได้แสงแดดจัดจ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้แต่การนั่งรอบกองไฟในระยะ 2-3 เมตร ยืนปิ้งบาร์บีคิวในงานปาร์ตี้หลังบ้าน ก็ทำให้ผิวคุณเกิดอาหารเห่อแดง ไหม้ลอก และทำลายความยืดหยุ่นของคอลลาเจนในผิวหนังได้เช่นเดียวกับอันตรายจากแสงแดด เลยทีเดียว
     5. ฟิลเลอร์ไม่ได้ให้ผลที่ดีเสมอไป
          ปัจจุบันนี้การฉีดฟิลเลอร์เสริมร่องริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมมาก แต่หลาย ๆ ครั้ง ผลของมันก็ไม่ได้น่าพึงพอใจเสมอไป เมื่อมักฉีดเข้าไปที่บริเวณหว่างคิ้ว ข้างแก้ม หรือที่รอยตีนกา ซึ่งทำให้ผิวบริเวณนั้นดูตึงขึ้น แต่มันก็ทำให้ใบหน้าดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ แต่หากเป็นการศัลยกรรมอีกประเภทที่ใช้ไขมันจากส่วนเกินของตัวเอง ฉีดเสริมเข้าบริเวณกรอบหน้า เช่น ขมับ ด้านหน้ากกหู และคาง จะทำให้ใบหน้าดูเต็มขึ้น แต่ยังคงความนุ่มนวลเป็นธรรมชาติกว่า แต่อย่างไรก็ตาม การเสริมด้วยการปลูกถ่ายไขมัน ผิวยังคงสูญเสียความตึงกระชับลงไปได้ทีละน้อยตามวระยะเวลา แต่ไม่ว่าอย่างไรรับรองว่ามันจะเป็นธรรมชาติกว่าการฉีดฟิลเลอร์แน่นอน
     6. โบท็อกซ์ทำได้ทุกอย่าง
          มาถึงการเสริมความงามชะลอริ้วรอยด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ประโยชน์ของมันไม่ได้อยู่ที่ป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา รอยย่นที่หว่างคิ้ว ที่หน้าผาก หรือว่าที่ข้างแก้มเท่านั้น แต่มันยังช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากโรคไมเกรน แก้ไขรอยยิ้มที่เผยเหงือกมากเกินไป รวมทั้งลดอาการเหงื่อออกมากเกินไปได้อีกด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเลยล่ะ ใครที่มีปัญหาตามที่กล่าวนี้ ก็สามารถปรึกษากับแพทย์ของคุณถึงความเป็นไปได้ที่จะรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ดูก็ได้นะคะ
     7. ดื่มน้ำก็ทำร้ายผิวได้
          หนึ่งในข้อปฏิบัติเพื่อผิวสวยคือ ให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ แต่รู้ไหมว่ามันก็มีเหตุที่สามารถทำร้ายผิวของคุณซุกซ่อนมาด้วย นั่นคือเมื่อยามที่คุณดื่มน้ำจากขวดโดยใช้หลอดดูดนั่นเอง กิริยาการดูดน้ำ ที่ต้องห่อปากทำปากจู๋ ทำให้เกิดริ้วรอยบาง ๆ สะสมที่บริเวณรอบปาก และนั่นคือสิ่งที่คุณไม่ปรารถนาเลยใช่ไหม เพราะฉะนั้นเพื่อดื่มน้ำให้ดีกับผิวจริง ๆ เปลี่ยนเป็นการดื่มจากแก้ว หรือยกดื่มจากระบอกน้ำส่วนตัวของคุณดีกว่า
     8. การนอนทำให้เกิดริ้วรอย
          การนอนหลับยาว ๆ อย่างเต็มที่อาจไม่ได้ทำให้ผิวของคุณได้พักผ่อนฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองเพียง อย่างเดียว แต่มันอาจทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าคุณได้ด้วย และมันจะเป็นเช่นนั้นในยามที่คุณนอนตะแคงนั่นเอง สังเกตดูสิว่าวันที่คุณตื่นมาแล้วพบว่าตัวเอง "หน้ายับ" คุณมักอยู่ในท่านอนตะแคงก่อนจะตื่นขึ้นมาเสมอ แม้ผิวจะค่อย ๆ ฟู และรอยยับบนใบหน้าค่อย ๆ หายไปในเวลาไม่นาน แต่เมื่ออายุมากขึ้นและผิวเริ่มเสียความยืดหยุ่นไปแล้ว การที่ผิวจะกับมาฟูเรียบเหมือนเดิมย่อมใช้เวลามากขึ้น และหากยังนอนตะแคงจนเป็นนิสัย ก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยถาวรได้
          มีเรื่องไหนที่สาว ๆ ไม่เคยรู้มาก่อน หรือว่าเคยรู้แต่ว่ามองข้ามมันไปบ้างไหมคะ ทั้ง 8 เรื่องเหล่านี้สามารถส่งผลกับผิวของคุณได้จริง เพราะฉะนั้นเมื่อได้รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปใช้กันด้วยนะจ๊ะ :)

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น