หน้าสะอาด ไร้สิว
ก่อนที่เราจะดูแลหน้าด้วยการพอกมาส์กนี่แล้วล่ะก็ เรื่องของการล้างหน้าให้สะอาดนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ เพราะถ้าเราล้างหน้าสะอาดหมดจดแบบจริงๆ เวลาที่เราทาครีมบำรุงหรือมาส์กหน้าด้วยมาส์กต่างๆ ผิวหน้าของเราก็จะสามารถรับสารบำรุงผิวได้ดี หรือจะเรียกได้ว่าสิ่งที่เราประโคมผิวไปนั้นสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้หมดนั่นเอง ยิ่งในช่วงที่เรานอนดึกแบบนี้ด้วยแล้ว เจ้าสิวตัวการร้ายก็ยิ่งแวะเวียนมาเยือนได้ง่าย เพราะผิวของเราอ่อนแอลงมากกว่าเดิม การล้างหน้าเพื่อชะล้างทั้งเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่างๆที่อุดตันรูขุมขนให้หลุดออกได้แบบหมดจรด จะทำให้ผิวของเราได้รับการพักผ่อนแบบเต็มอิ่มและได้สัมผัสกับอากาศในยามค่ำคืน เรียกว่าไร้สิวมากวนใจให้หงุดหงิดแน่นอน
ก่อนที่เราจะดูแลหน้าด้วยการพอกมาส์กนี่แล้วล่ะก็ เรื่องของการล้างหน้าให้สะอาดนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ เพราะถ้าเราล้างหน้าสะอาดหมดจดแบบจริงๆ เวลาที่เราทาครีมบำรุงหรือมาส์กหน้าด้วยมาส์กต่างๆ ผิวหน้าของเราก็จะสามารถรับสารบำรุงผิวได้ดี หรือจะเรียกได้ว่าสิ่งที่เราประโคมผิวไปนั้นสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้หมดนั่นเอง ยิ่งในช่วงที่เรานอนดึกแบบนี้ด้วยแล้ว เจ้าสิวตัวการร้ายก็ยิ่งแวะเวียนมาเยือนได้ง่าย เพราะผิวของเราอ่อนแอลงมากกว่าเดิม การล้างหน้าเพื่อชะล้างทั้งเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่างๆที่อุดตันรูขุมขนให้หลุดออกได้แบบหมดจรด จะทำให้ผิวของเราได้รับการพักผ่อนแบบเต็มอิ่มและได้สัมผัสกับอากาศในยามค่ำคืน เรียกว่าไร้สิวมากวนใจให้หงุดหงิดแน่นอน
มาส์กหน้า ปลุกสภาพผิว
การนอนดึกหรือว่าอดนอนบ่อยๆ แน่นอนเลยว่าจะทำให้ผิวพรรณของเรานั้นดูไม่เปล่งปลั่ง แถมยังดูหมองรวมไปถึงเกิดเป็นริ้วรอยดูเหี่ยวแห้งไม่กระชับเต่งตึงอีกด้วย อย่างการดูแลด้วยการมาส์กหน้าเป็นประจำตอนเช้าและก่อนนอนเป็นตัวช่วยที่นับว่าเวิร์คมากๆ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา เรายิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะเวลาที่เรานอนดึกนั้น ความอ่อนล้าจะสะสมอยู่ที่รอบดวงตาหรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่า “ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า” นั่นแหละ โดยใช้มาส์กสำหรับรอบดวงตามาส์กทิ้งไว้ประมาณ 5 – 10 นาที
ส่วนบริเวณผิวหน้ามีสูตรการมาส์กด้วยธรรมชาติมาฝาก แค่เราผสมข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศลูกใหญ่ 2 ลูก (ปั่นให้ละเอียด) และน้ำผึ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันและทาทั้วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที ถ้าเหลือก็ให้นำใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ จะเก็บได้นานประมาณ 1 สัปดาห์
ส่วนบริเวณผิวหน้ามีสูตรการมาส์กด้วยธรรมชาติมาฝาก แค่เราผสมข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศลูกใหญ่ 2 ลูก (ปั่นให้ละเอียด) และน้ำผึ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันและทาทั้วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที ถ้าเหลือก็ให้นำใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ จะเก็บได้นานประมาณ 1 สัปดาห์
ปรับระบบไหลเวียนเลือด
เคยได้ยินมั้ยว่าการที่ระบบเลือดของเราสามารถไหลเวียนได้ดี จะช่วยให้ร่างกายของเรานั้นสดชื่นกระปรี้กระเปร่าและผิวพรรณก็สดใสเปล่งปลั่งอีกด้วย เคล็ดลับในการปรับระบบไหลเวียนเลือดในช่วงเวลาที่เราต้องอดนอนแบบนี้ทำได้ไม่ยาก ตื่นมาในตอนเช้าให้เราอาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่นจัดๆประมาณ 3 นาที และอาบน้ำน้ำเย็นอีก 2 นาที สลับไปมาสักประมาณ 3 รอบ การทำแบบนี้จะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดทำให้เรากระฉับกระเฉง ส่วนการล้างหน้าก็เหมือนกันให้สลับน้ำอุ่นและน้ำเย็น เพราะเวลาเราล้างด้วยน้ำอุ่นรูขุมขนจะขยายออก ทำให้สิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่นั้นหลุดออก และเมื่อเราล้างหน้าด้วยน้ำเย็นรูขุมขนก็จะกระชับเข้า ผิวหน้าของเราก็จะใสเปล่งปลั่งไม่โทรมอย่างแน่นอน
คิด..ก่อนใส่เข้าปาก
คิด..ก่อนใส่เข้าปาก
แน่นอนว่ายิ่งเรานอนดึกเราก็จะยิ่งรู้สึกหิว พอหิวอะไรๆก็อยากจะหม่ำไปซะหมด จนลืมนึกไปเลยว่าเรากำลังจะอ้วนโดยไม่รู้ตัว สาวๆคนไหนที่คอยให้กำลังใจทีมโปรดยามดึกแล้วหิวแบบอดใจไม่ไหว ขอแนะนำว่าห้ามทานอาหารที่ย่อยยากๆอย่างพวกเนื้อสัตว์เด็ดขาดเลย รวมไปถึงนมวัวด้วย เพราะว่าเป็นนมที่มีไขมันสูงมากทีเดียว ถ้าอดทนนั่งกลืนน้ำลายไม่ไหวให้เลือกทานอาหารเบาๆอย่างข้าวต้มหรือโจ๊ก ผัก ผลไม้ หรือจะเป็นเนื้อปลาก็ได้ เครื่องดื่มร้อนๆก็ช่วยได้ดีเลย อย่างการดื่มน้ำขิงผสมกับน้ำผึ้งอุ่นๆ หรือจะเป็นน้ำอุ่นธรรมดาผสมกับน้ำก็ได้ จะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นและไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย
พอตื่นมาในตอนเช้าให้ทานอาหารพวกวิตามินซีและบีเยอะๆ อย่างเช่นพวกข้าวกล้อง ผัก หรือผลไม้สดๆ เพราะจะช่วยให้ผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย
ดื่มน้ำเยอะๆดีที่สุด
ไม่ว่าจะกี่ร้อยกี่พันปัญหา การดื่มน้ำเปล่าสะอาดนับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ เพราะเวลาที่เรานอนดึกนั้น กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันและคอลลาเจนของผิวหนังเรานั้นจะอ่อนแอลง ทำให้รู้สึกว่าช่วงนี้เราสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวได้ง่าย จากปกติที่คนเราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 – 10 แก้วนั้น ก็อาจจะต้องดื่มให้มากยิ่งขึ้น แต่ควรจะดื่มทีละไม่มากแต่บ่อยครั้ง และในการดื่มน้ำควรดื่มในปริมาณพอเหมาะ ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป เพราะการที่เราดื่มน้ำมากเกินไปนั้นจะทำให้กระเพาะปัสสาวะของเรานั้นครากหรือหมดสภาพเพราะต้องทำงานหนัก เวลาถ่ายก็จะถ่ายออกได้ช้าๆ และถ่ายออกไม่หมด เราจะรู้สึกว่าปวดปัสสาวะอีกทั้งที่เพิ่งจะปัสสาวะไปเมื่อไม่นาน ตอนกลางคืนเราก็จะต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ทำให้นอนไม่พอและอาจจะส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้อีกด้วย
เคล็ดลับในการดื่มน้ำโดยไม่ทำลายสุขภาพนั้น ไม่ยาก เริ่มจากดื่มน้ำอุ่นในตอนเช้า 3-5 แก้วเมื่อตื่น เพื่อให้ร่างกายของเราได้ขับถ่ายของเสียและสารพิษในร่างกาย แต่ไม่ควรดื่มน้ำเย็นก่อนเข้านอนนะ เพราะเวลากลางคืนที่คุณหลับ คุณจะต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะ ทำให้การนอนหลับของคุณขาดช่วง (ควรดื่มน้ำอุ่นแทนการดื่มน้ำเย็น) ก่อนทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง ให้เราดื่มน้ำเปล่าก่อน และหลังจากที่เรารับประทานอาหารไปแล้วประมาณ 30 นาที ให้เราดื่มน้ำอีกครั้ง เพื่อให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยให้หมดนั่นเอง ในขณะที่เรากำลังรับประทานอาหาร ไม่ควรดื่มน้ำไปด้วยทานอาหารไปด้วย เพราะจะทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปอืด ส่งผลให้อาหารไม่ย่อย ก็จะเกิดอาการปวดท้องได้ ในการดื่มน้ำแต่ละครั้งไม่ควรดื่มทีละมากๆรวดเดียวหมด เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ช้าและยังเกิดอาการจุกเสียดได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น